วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

python

1.ประวัติ
         Python คือชื่อภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาหนึ่ง ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาโดยไม่ยึดติดกับแพลตฟอร์ม กล่าวคือสามารถรันภาษา Python ได้ทั้งบนระบบ Unix, Linux , Windows NT, Windows 2000, Windows XP หรือแม้แต่ระบบ FreeBSD อีกอย่างหนึ่งภาษาตัว นี้เป็น OpenSource เหมือนอย่าง PHP ทำให้ทุกคนสามารถที่จะนำ Python มาพัฒนาโปรแกรมของเราได้ฟรีๆโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และความเป็น Open Source ทำให้มีคนเข้ามาช่วยกันพัฒนาให้ Python มีความสามารถสูงขึ้น และใช้งานได้ครบคุมกับทุกลักษณะงาน
ไวยากรณ์ของภาษา Python
      ภาษา Python นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาโดยมีความตั้งใจว่าจะให้เป็นภาษาที่อ่านง่าย มันถูกออกแบบมาให้มีโครงสร้างที่มองเห็นได้โดยไม่ซับซ้อน โดยมักจะใช้คำในภาษาอังกฤษในขณะที่ภาษาอื่นใช้เครื่องหมายวรรคตอน นอกจากนี้ Python มีข้อยกเว้นของโครงสร้างทางภาษาน้อยกว่าภาษา C และ Pascal
Python Interpreter

      Python interpreter นั้นเป็นตัวแปรภาษาของภาษา Python เพื่อให้สามารถรันโค้ด Python ได้ ซึ่งได้มากับไลบรารี่มาตรฐานที่สามารถใช้งานได้ฟรี ซึ่งดาวน์โหลดได้ที่ https://www.python.org/ ซึ่งเป็นโปรแกรมแบบ source และ binary สำหรับแพลตฟอร์มทีไ่ด้รับความนิยม นอกจากนี้ Interpreter ยังสนับสนุนการเขียนโปรแกรมกับ Interactive shell ซึ่งเป็นการเขียนโค้ดของภาษา Python ลงไปและเห็นผลลัพธ์การทำงานของคำสั่งได้ในทันที Python Interpreter นั้นยังสามารถนำเพิ่มความสามารถกับฟังก์ชันใหม่ที่ถูกพัฒนามาจากภาษา C และ C++ Python นั้นเหมาะสำหรับเป็นภาษาในการสร้าง Extension และแอพพลิเคชันที่ปรับแต่งได้
 โค้ดของ Python ถูกสร้างขึ้นมาจากภาษาซี การประมวลผลจะทำในแบบอินเทอร์พรีเตอร์ คือจะประมวลผลไปทีละบรรทัดและปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับ Python เวอร์ชันแรกคือ  เวอร์ชัน 0.9.0 ออกมาเมื่อปี 2533 และเวอร์ชันปัจจุบันคือ 3.5

    คุณลักษณะเด่นของภาษา Python
    1.สนับสนุนแนวแบบคิดออปเจกต์โอเรียนเทด หรือ OOP (Object Oriented Programming)
    2.เป็น Open Source
    3.โค้ดที่เขียนด้วย Python สามารถนำไปรันบนระบบปฏิบัติการได้หลากหลาย
    4.สนับสนุนเทคโนโลยี COM ของ Ms-windows
    5.Python รวมมาตรฐานการอินเตอร์เฟส Tkinter ซึ่งสนับสนุนบนระบบ X windows, Ms-windows และ Macintosh การใช้คำสั่ง Tkinter API ช่วยให้โปรแกรมเมอร์ไม่ต้องแก้ไขโค้ดเมื่อนำไปรันบนระบบปฏิบัติการอื่นๆ
    6.เป็น Dynamic typing คือ สามารถเปลี่ยนชนิดข้อมูลได้ง่ายและสะดวก
    7. มี Buil-in Object Types คือ โครงสร้างของข้อมูลที่สามารถใช้ได้ใน Python ประกอบด้วย ลิสต์, ดิกชันนารี, สตริง ที่ง่ายต่อการใช้งานและมีประสิทธิภาพสูง
    8.มีเครื่องมือต่างๆ มากมาย เช่น การประมวลผลเท็กซ์ไฟล์ การเรียงข้อมูล การเชื่อต่อสตริง การตรวจสอบเงื่อนไขของข้อความ การแทนคำ เป็นต้น
    9.มีมอดูลสำหรับจัดการ Regular Expresion
    10.มีมอดูลที่สร้างขึ้นจากนักพัฒนาสนับสนุนมากมาย ได้แก่ COM, Image, CORBA, ORBs, XML เป็นต้น
ฝุ่น PM 2.5

  • ฝุ่น PM 2.5 เกิดจาก 1.การเผาไหม้เครื่องจักร เครื่องยนต์ ทั้งรถยนต์ใหม่และเก่า สังเกตได้ว่าฝุ่นจะเพิ่มขึ้นสูงสุดหลัง 1 ทุ่มที่คนเริ่มขับรถกลับบ้านไปจนถึงช่วง 11 โมงเช้า 2. ฤดูกาลหนาวหรืออากาศที่เย็นและแห้งส่งผลให้ฝุ่นไม่ลอยขึ้นที่สูง สังเกตได้ว่าตอนเช้า หรืออากาศเย็นๆ ฝุ่นจะเยอะกว่าปกติ โดยฝุ่นจะเยอะในช่วงเดือนธ.ค.-ก.พ. นอกจากนี้ถ้าอากาศตายหรือลมไม่พัด เช่น กรุงเทพฯ ที่มีสิ่งก่อสร้าง ตึกสูงเยอะ ยิ่งไม่มีลมฝุ่นเลยไม่พัดไปไหน

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
เทคโนโลยี 4.0
Digital 4.0 เมื่อเทคโนโลยีมีมันสมองและเราก็มาถึงยุคที่ความฉลาดของเทคโนโลยีจะทำให้อุปกรณ์ต่างๆสื่อสารและทำงานกันเองได้อย่างอัตโนมัติ เทคโนโลยีในสามยุคแรกที่กล่าวไปเปรียบเสมือนเป็นแขน ขา ให้แก่มนุษย์ เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก หยิบจับ คำนวณ ประมวลผมให้มนุษย์ มีแขน ขา แต่ไม่มีสมองเป็นขของมนุษย์ในการใช้ความคิดเพื่อข้ามขีดจำกัด สร้างสรรค์พัฒนาสิ่งใหม่ๆ โดยจะใช้ชื่อยุคนี้ว่าเป็นยุค Machine-to-Machine เช่น เราสามารถเปิด-ปิด หรือสั่งงานอื่นๆกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านตัวเองผ่านแอพลิเคชั่นโดยไม่ต้องเดินไปกดสวิตช์ หรือตัวอย่างที่ถูกนำมาใช้งานจริงแล้วอย่างการพูดคำว่า “แคปเจอร์” กับแอพถ่ายภองตัวเอง ในยุค 4.0 เทคโนโลยีถูกนำมาพัฒนาต่อยอดเพื่อลดบทบาทของมนุษย์ และเพิ่มศักยภาพาพในสมาร์ทโฟน โทรศัพท์ก็จะถ่ายรูปให้อัตโนมัติโดยที่เราไม่ต้องกดถ่ายด้วยซ้ำ หรือแม้แต่เทคโนโลยีซิมูเลชั่น Simulation จำลองสถานการณ์เพื่อฝึกอบรมพนักงาน วางแผนสถานการณ์โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปถึงสถานที่จริง หรือเป็นสื่อการเรียนรู้แบบ Interactive เป็นต้น
เทคโนโลยีล้าสมัย
เครื่องวิทยุ AM /FN

ถึงปัจจุบันเราจะสามารถฟังวิทยุผ่านมือถือกันได้เเล้ว เเต่ทั้งในรถยนต์หรือร้านอาหารข้างทางธรรมดาๆ ก็ใช้วิทยุกันทั้งนั้นนะครับ เพราะบางทีเปิดมือถือมานั้นส่วนใหญ่ก็กดเกมเล่นกันไม่ก็อ่านเฟสบุ๊คทำให้วิทยุเหล่านี้ก็ยังขายได้อยู่ดีถึงจะน้อยก็ตาม
สายเเจ็คเสียง 3.5mm
สายหูฟังที่ใช้กันมาอย่างยาวนานที่ไม่มีท่าทีว่าจะหายไปง่ายๆ ถึงเเม้ iphone 7 จะนำช่องนี้ออกก็ตามเเต่ก็ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้กันอยู่ทั่วบ้านทั่วเมืองอยู่ดี
ตลับเกมคลาสสิก
ตลับเกมที่ตอนเด็กๆ คนที่เคยเล่นน่าจะเคยหยิบเอามาเป่าก่อนเสียบเล่นกัน ที่ถึงปัจจุบันเครื่องเกมจะเปลี่ยนเป็นเเบบ blu-ray /Digital กันหมดเเล้ว เเต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่ชอบของคลาสสิกเหล่านี้กันอยู่ที่คลาสสิกสุดๆ ขนาดยังใช้ตลับเล่นกันอยู่นั่นเอง
โทรทัศน์ CRT
เครื่องโทรทัศน์ใหญ่ๆ อ้วนๆ ที่พบเห็นกันได้ตามร้านอาหารข้างทางทั่วไป หรือบ้านบางคนที่มีคนเถ้าคนเเก่ที่มีเครื่องเเบบนี้มานานเเล้วที่ยังใช้ดูข่าวดูละครอยู่ทุกวัน ที่ถึงในตลาดจะมีเเต่ LCD,LED ขายกันหมดเเล้ว เเต่เครื่องเเบบนี้ก็ยังมีคนใช้กันอยู่ดี
กล้อง Digital
'
เเน่นอนว่ากล้องเเบบนี้นั้นปัจจุบันก็เเทบจะเเทนที่กล้องฟิล์มกันหมดเเล้ว เเต่ถ้าย้อนไปจุดกำเนิดนั้นก็เรียกได้ว่าเกือบ 20-30 ปีเเล้ว ซึ่งสิ่งที่ทำให้มันอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะความสะดวกนั่นเองที่ทำให้มีการปรับปรุงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ถึงจะคิดค้นกันมานานเเล้วก็ยังใช้กันได้อยู่นั่นเอง
เครื่อง Fax 
สำนักงานปัจจุบันก็มีเครื่องเหล่านี้ใช้กันทั้งนั้น ส่งเอกสารไปมาระหว่างชั้นหรือตึกอาคารไม่ต้องไปส่งในเน็ตให้ยุ่งยาก
โทรศัพท์บ้าน

ในสำนักงานทั้งหลายรวมถึงบ้านเรือนทั่วไปเเน่นอนว่าโทรศัพท์เเบบนี้ก็ยังมีให้เห็นกันอยู่เเน่นอน
นาฬิกาข้อมือ
ถึงเเม้จะเป็นของที่มีมานานสมัยรุ่นพ่อของปู่เราๆ เเล้วก็ตามเเต่นาฬิกาข้อมือก็ไม่ได้หายตายจากไปไหน ถึงจะมีพวก Applewatch ที่พยายามจะมาเเทนที่ของตกยุคเเบบนี้ก็ตามเเต่ก็ยังมีคนใช้กันอยู่ดี
เเผ่นเสียง Vinly
ยุคปัจจุบันที่ .mp3 หาโหลดหาฟังกันได้ตามเน็ตเป็นเรื่องธรรมดาไปเเล้ว เเต่เเผ่นเสียงเหล่านี้ก็ยังมีขายอยู่ไม่ได้หายไปไหน ซึ่งว่ากันว่ามันเป็นความรู้สึกอีกเเบบที่ไฟล์ mp3 ให้ไม่ได้กันนั่นเอง บ้านใครมีเครื่องของพ่อเเม่ก็ลองเอามาฟังกันดูนะครับอาจจะชอบกันก็ได้
เเผ่น CD 


เเน่นอนว่ายุคสมัยนี้เเผ่น CD ดูจะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ในหลายๆ อย่างเเล้ว เเต่บางทีอย่างเเผ่นเพลงหรือไฟล์งานส่งอาจารย์ก็ต้องใช้เเผ่น CD เหล่านี้อยู่ทำให้่มันไม่ได้หายไปจากตลาดโดยสมบูรณ์
แหล่งที่มา
https://www.online-station.net/movie/view/98550

www.mindphp.com/บทเรียนออนไลน์/83-python/2393-ประวัติ-ภาษา-python-ไพทอน.html
http://air4thai.pcd.go.th/webV2/aqi_info.php
http://www.wice.co.th/2018/01/11/digital-4-0-technology/
www.online-station.net/movie/view/98550

วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2561

สอบปฎิบัติ final


10 เทคนิคเรียน ให้เป็นคนเรียนเก่ง
1. คนเรียนเก่ง แบ่งเวลาเป็น
2. ทบทวนล่วงหน้า-หลังเรียน เข้าหัวไม่ต้องจำ
3.มีสมาธิในเวลาเรียน

4. จับประเด็นให้ได้
5. อ่านเนื้อหาคร่าวๆก่อนเรียน
6. อย่าสักแต่ว่าจด  
7. สอนเพื่อนๆในเรื่องที่เข้าใจ
8. คนเรียนเก่ง ติวเป็นกลุ่มกับเพื่อน ผลัดกันถาม ผลัดกันตอบ
9. มั่นใจในตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองไม่เก่งเรียนยังไงก็ไม่ได้
10. คนเรียนเก่ง ดูแลตัวเอง กินให้พอ นอนให้พอ
คุณสมบัติการเป็นหมอ


1. ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) 
หมอเป็นอาชีพที่ต้องเผชิญกับความเจ็บป่วย ความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจ ไม่ว่าจะต่อผู้ป่วย ต่อคนในครอบครัว ต่อสัตว์เลี้ยง และต่อบุคคลอันเป็นที่รัก    
2. แรงบันดาลใจ (Motivation) เด็กต้องให้เหตุผลของการอยากเรียนหมอ แสดงออกถึงความสนใจที่มาจากตนเอง รวมถึงเป้าหมายและแรงบันดาลใจในการเลือกเรียนสาขานี้ 
3. การสื่อสาร (Communication)ความสามารถทางการสื่อสาร การใช้ภาษาได้ถูกต้องและเหมาะสม การอธิบายที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย รวมทั้งความสามารถในการรับฟัง
4. ความซื่อสัตย์ จริงใจ (Honesty and Integrity) การมีศีลธรรมและความจริงใจต่อตนเองและผู้อื่นเป็นอีกส่วนที่สำคัญในการทำงานในทุกอาชีพ 
5. การรู้จักตนเอง (Personal Insight)   เข้าใจตนเองและรับมือกับความเครียด รู้จักจัดสรรเวลา ตั้งเป้าหมาย มีความรับผิดชอบ ยืดหยุ่นในบางสถานการณ์ และควบคุมอารมณ์จากความกดดันและปัญหาต่างๆ ได้
6. การทำงานร่วมกัน (Team Work) การทำงานร่วมกับผู้อื่น การทำงานเป็นทีม และการจ่ายงานให้เพื่อนร่วมทีมก็สำคัญพอๆ กัน
7. การคิดแก้ปัญหา (Problem Solving) การคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหา รวมถึงความสามรถในการตัดสินใจ การวินิจฉัยโรคต่างๆ 
8. การยึดหลักจริยธรรม (Ethical Awareness)จริยธรรมเกี่ยวข้องกับการทำงานของทุกคน ในส่วนของการเป็นหมอ จริยธรรมคือ การดำเนินงานรักษาโรค 
9. ความกระหายรู้ (Intellectual Curiosity)สนใจขวนขวาย ไม่หยุดที่จะหาความรู้ ติดตามข่าวสารวงการแพทย์และงานวิจัยใหม่ๆ และพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ 
เส้นทางการเป็นหมอ
การสอบเข้าเรียนคณะแพทยศาสตร์ มี หลายทาง เช่น โครงการรับส่วนกลางอย่าง กสพท และ มหาวิทยาลัยรับเอง โดย กสพท จะอยู่ในระบบ TCAS รอบ 3 หรือ รอบรับตรง ส่วนรอบมหาลัยรับเองจะอยู่ในรอบ ที่ 1 2 และ 5

พอเราสอบติด ในชั้นปีที่ 1 เนื้อหาการเรียนที่เราจะเจอคือเนื้อหาช่วงมัธยมปลาย แต่จะเหมือนนำเนื้อหาตอน ม.4-6 มารวบยอดอัดแน่นในปีเดียว แถมยังยากกว่าอีก

พอขึ้นปี 2 เราจะได้เรียนเนื้อหาที่เกี่ยวกับเเพทย์จริงๆ อย่าง กายวิภาคศาสตร์ ที่ต้องเจอกับอาจารย์ใหญ่ เพื่อจะได้เรียนรู้ระบบต่างๆของร่างกาย เราจะได้เจอของจริงกันเลยยย ไม่ได้เห็นแค่ในรูปแล้ว การสอบที่เราต้องพบคือการสอบแล็บกริ๊ง ที่จะเป็นฐานหรือสถานี พอมีเสียงกริ๊งดังขึ้นก็ต้องลุกไปยังฐานต่อไป โอโห้ว บางครั้งก็ทำไม่ทันนะ


หลังจากปี 2 เราเรียนเรื่องระบบต่างๆ ของร่างภายซึ่งจะเน้นในภาวะปกติ แต่พอปี 3 จะเรียนในภาวะไม่ปกติ นั้นก็คือ เรียนเกี่ยวกับภาวะที่เกิดโรคนั่นเอง น้องๆจะได้รู้ว่าโรคนั้นเกิดได้จากอะไร

ขึ้นปี 4 แล้วกันเเล้ว เราจะต้องขึ้นหอผู้ป่วยของจริงในโรงพยาบาล โดยหอผู้ป่วยหลักมี 4 หอ เรียกกันติดปากว่า สู ศัลย์ Med เด็ก "สู" เริ่มที่หอผู้ป่วยสูตินรีเวชวิทยา เรียนเกี่ยวกับระบบอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง และ การดูแลผู้ป่วยทั้งที่อยู่ในระยะตั้งครรภ์และไม่ได้ตั้งครรภ์  "ศัลย์" ก็คือ ศัลยกรรม หรือ ศัลยศาสตร์ หมายถึงการรักษาด้วยการผ่าตัด ทั้งผ่าตัดเล็กๆ ตั้งแต่หูด ฝี หนอง ไปจนถึงผ่าตัดใหญ่ เช่น ผ่าตัดหัวใจ ผ่าตัดปอด "Med" มาจาก Medicine หรือ อายุรกรรม หมายถึง การรักษาที่เน้นการใช้ยา มักเป็นหอผู้ป่วยที่มีคนไข้เยอะมากที่สุด"เด็ก" ก็คือหอผู้ป่วยเด็ก หรือ กุมารเวชกรม ใครรักเด็กรับรองว่าสนุกสุดๆ 5555แน่นอนว่าเรียนมาถึงขั้นนี้ จะมานั่งสอบกากบาทไม่ได้หรอก การสอบที่ขึ้นชื่อการสอบ OSCE (ออสกี้) คือการลงมือปฏิบัติเสมือนจริงนั่นเอง หน้าที่ประจำวันที่ต้องเจอแน่ๆ คือ ต้องไปถึงโรงพยาบาลตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น เพื่อเตรียมตัว "ราวนด์" บนวอร์ดผู้ป่วยที่เราจะต้องวนสลับไปเรื่อยๆ ตลอดปี นั่นคือการไปตรวจดูอาการของผู้ป่วย ไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะให้เราตรวจคนเดียว เพราะจะมีทั้งอาจารย์หมอ พยาบาล และรุ่นพี่คอยเป็นคนนำทางจ้า

มาถึงปี 5 กันเเล้ว ภาพรวมจะคล้ายๆ ปี4 แต่จะมีความชำนาญมากขึ้น ทำอะไรได้คล่องแคล่วมากขึ้นต้องเจอกับหอผู้ป่วยย่อย ที่ต้องวนไปมาหอละประมาณ 1 เดือน มาดูกันเถอะ มีหออะไรกันบ้างเริ่มที่ "จิตเวชศาสตร์" หรือ ภาวะความผิดปกติทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า อารมณ์สองขั้ว หน้าที่หลักๆ คือเข้าไปอยู่ในห้องตรวจกับอาจารย์หมอที่ตรวจผู้ป่วย คอยสังเกตวิธีการพูดคุยหรือซักอาการ "นิติเวชศาสตร์" เรามักคุ้นเคยว่าคือการผ่าศพ แต่จริงๆ 

เทคโนโลยีคืออะไร

เทคโนโลยีคืออะไร

1.ความหมายเทคโนโลยี
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
  ❤ เทคโนโลยี หมายถึง สิ่งที่มนุษย์พัฒนาขึ้น เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ เข่น อุปกรณ์, เครื่องมือ, เครื่องจักร, วัสดุ หรือ แม้กระทั่งที่ไม่ได้เป็นสิ่งของที่จับต้องได้ เช่น กระบวนการต่าง ๆ
เทคโนโลยี เป็นการประยุกต์ นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ และก่อให้เกิดประโยชน์ ในทางปฏิบัติ แก่มวลมนุษย์กล่าวคือเทคโนโลยีเป็นการนำเอาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ
➽http://oknation.nationtv.tv/blog/kang1989/2008/06/30/entry-3

2. ระบบทางเทคโนโลยี

   ❤ 1. ตัวป้อน (Input) คือ ปัญหาที่ต้องการแก้ไข หรือ ความต้องการของมนุษย์
      ➸2. กระบวนการเทคโนโลยี (Technological Process) คือ ขั้นตอนการแก้ปัญหาหรือการตอบสนองความต้องการ โดยอาศัยทรัพยากรทางเทคโนโลยีเพื่อให้ได้ผลผลิตหรือผลลัพธ์
     ➸ 3. ผลผลิตหรือผลลัพธ์ (Output หรือ Outcome) คือ สิ่งทีไ่ด้มา หรือเกิดขึ้นจากกระบวนการเทคโนโลยี หรือผลที่ได้จากกระบวนการแก้ปัญหานั่นเอง
     ➸4. ทรัพยากรทางเทคโนโลยี (Resource) คือสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการแก้ปัญหา เพื่อให้ได้มาซึ่งผลผลิตหรือผลลัพธ์นั่นเอง ซึ่งทรัพยากรทางเทคโนโลยี แบ่งได้ 7 ด้าน ได้แก่ คน ข้อมูลและสารสนเทศ วัสดุ เครื่องมือและอุปกรณ์ พลังงาน ทุนหรือทรัพย์สิน และเวลา

    ➸ 5. ปัจจัยที่ขัดขวางต่อเทคโนโลยี (Constraints) คือ สิ่งที่เป็นข้อจำกัด ข้อพิจารณา หรือสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ซึ่งจะทำให้การแก้ปัญหาได้ผลงานแตกต่างกันไป
➽https://sites.google.com/site/withyasastrkabthekhnoloyi2121/rabb-khxng-thekhnoloyi

3.ความสัมพันธ์และบทบาทของเทคโนโลยี

❤ 1.ช่วยในการจัดระบบข่าวสารจำนวนมหาสารในแต่ละวัน
  ➸ 2.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสารสนเทศ
   ➸3.การจัดเรียงลำดับสารสนเทศ ฯลฯ
  ➸ 4.ช่วยในการจัดเก็บสารสนเทศไว้ในรูปที่เรียกใช้ได้ทุกครั้งอย่างสะดวก
   ➸5.ช่วยในการจัระบบอัติโนมัติ เพื่อการจัดเก็บ การประมวลผล และการเรียกใชสารสนเทศ
  ➸ 6.ช่วยในการเข้าถึงสารสนเทศได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้น

   ➸7.ช่วยในการสื่อสารระหว่างกันได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ลดอุปสรรคเกี่ยวกับเวลาและระยะทาง โดยใช้ระบบโทรศัพท์ และอื่นๆ
➽https://sites.google.com/site/mrwissarutjanda/page0

4.ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่นๆ


❤เทคโนโลยีเป็นวิชาที่ไม่อยู่ตามลำพังเพียงวิชาเดียวร่วมกับวิชาอื่นๆ เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์เศรษฐศาสตร์เทคโนโลยีต้องอาศัยองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ในการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือ เครื่องใช้ที่ใช้แก้ปัญหาหรือสนองความต้องการของมนุษย์วิทยาศาสตร์ต้องอาศัยเครื่องมือที่สร้างจากเทคโนโลยีในการค้นคว้าหาความรู้ใหม่ๆ
➸1. ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับวิทยาศาสตร์
➸2. ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับมนุษย์ศาสตร์
➸3.  ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับสังคมศาสตร์
➸4.  ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับการศึกษา
➸5.  ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับเกษตรกรรมในปัจจุบันได้นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการเกษตร
➸6. ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับอุตสาหกรรมการผลิต
➸7. ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับอุตสาหกรรมการขนส่งและโลจิสติกส์
➽https://sites.google.com/a/srp.ac.th/srp30942/2-khwam-sakhay-laea-bthbath-khxng-thekhnoloyi-1
5.เทคโนโลยีท้องถิ่นและเทคโนโลยีนำเข้า
❤เทคโนโลยีท้องถิ่น คือ เทคโนโลยีพื้นบ้านไม่ต้องมีพื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นระบบ อาศัยการสังเกตปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในสิ่งแวดล้อมของตน
❤เทคโนโลยีนำเข้า คือการนำเทคโนโลยีจากท้องถิ่นอื่นมาปรับปรุงให้เหมาะสมกับการดำรงชีวิตในท้องถิ่นของตน

6.เทคโนโลยีกับการพัฒนาประเทศ

Resume

SJ. Saint Joseph Nakhonsawan School



Name: Nitphusida Nimchuen
Nickname: poy
My Birthday: 26 July 2002
Age: 16
My favorite subject: computing
My favorite food:Hainanese chicken rice ,Fried Shrimp
My hobb is Listen to music andRead Joy Lada
My free time : got7 music
My favorite music: never ever , you are , fly , fake love ,dna
My idol : mark got7 ,  Jungkook  bts
My band : got7 , bts ,  wanna one ,  exo  

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2561

อาเซียน

ประชาคมอาเซียน หรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(Association of South East Asian Nations : ASEAN) 
➽เป็นองค์กรระหว่างประเทศระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีจุดเริ่มต้นโดยประเทศไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ได้ร่วมกันจัดตั้ง สมาคมอาสา (Association of South East Asia) เมื่อเดือน ก.ค.2504 เพื่อการร่วมมือกันทาง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม
อาเซียน คือ
อาเซียน เกิดจากการรวมตัวกันของ 10 ประเทศ อันได้แก่ มาเลเซีย, พม่า, กัมพูชา, ลาว, ไทย, สิงคโปร์, เวียดนาม, บรูไนดารุส-ซาลาม, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งรายนามประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งสิ้น โดยอาเซียน มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า "Association of Southeast Asian Nations" หรือ "สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"
ในการจัดตั้งอาเซียน ภายในปฏิญญากรุงเทพ (Bangkok Declaration) ได้ระบุวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งเอาไว้ถึง 7 ข้อ อันได้แก่ ..

1.ส่งเสริมความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และการบริหาร
2.ส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงส่วนภูมิภาค
เสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจพัฒนาการทางวัฒนธรรมในภูมิภาค
3.ส่งเสริมให้ประชาชนในอาเซียนมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดี
4.ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในรูปของการฝึกอบรมและการวิจัย และส่งเสริมการศึกษาด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
5.เพิ่มประสิทธิภาพของการเกษตรและอุตสาหกรรม การขยายการค้า ตลอดจนการปรับปรุงการขนส่งและการคมนาคม
6.เสริมสร้างความร่วมมืออาเซียนกับประเทศภายนอก องค์การ ความร่วมมือแห่งภูมิภาคอื่นๆ และองค์การระหว่างประเทศ
ข้อมูล ASEAN ที่ควรรู้
➽นอกจากอาเซียนนั้นจะมีความน่าสนใจในแง่ของความร่วมมือกันด้านต่างๆ ของทั้ง 10 ประเทศแล้ว อาเซียน ยังมีข้อมูลอีกบางประการที่เราควรจะต้องรู้เอาไว้ เผื่อว่าคุยกับใครๆ จะได้รู้เรื่อง
➤เมื่อปี 2554 ประเทศในภูมิอาเซียนมีประชากรรวมกันมากถึง 620 ล้านค้น
➤ภูมิภาคอาเซียนมีอาณาเขตพื้นที่รวมกันทั้งสิ้น 4.5 ล้านตารางกิโลเมตร
➤ในภูมิภาคอาเซียนมีประชากรที่นับถือศาสนาแตกต่างกันทั้งพุทธิ อิสลาม คริสต์ และฮินดู
➤ประเทศในภูมิภาคที่มีประชากรนับถือศาสนาอิสลามมากที่สุด คือ อินโดนีเซีย และประเทศที่มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์มากที่สุด คือ ฟิลิปปินส์
➤ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนมีมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวม เท่ากับ 2.1 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ นับว่าเป็นอันดับที่ 9 ของโลก
➤ค่าการส่งออกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่ารวม 2.0 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ
ตราสัญลักษณ์อาเซียน
"สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" หรือ "อาเซียน" ใช้สัญลักษณ์เป็นรูปมัดรวงข้าวสีเหลืองบนพื้นวงกลมสีแดง ล้อมรอบด้วยวงกลมสีขาวและสีน้ำเงิน

ตราสัญลักษณ์อาเซียน

➤รวงข้าวสีเหลือง
10 ต้น หมายถึง ความใฝ่ฝันของบรรดาสมาชิกในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง 10 ประเทศ ให้มีอาเซียนที่ผูกพันกันอย่างมีมิตรภาพและเป็นหนึ่งเดียว
➤วงกลม หมายถึง เอกภาพของอาเซียน
➤ตัวอักษร "asean" สีน้ำเงินใต้ภาพรวงข้าว หมายถึง ความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันเพื่อความมั่นคง สันติภาพ เอกภาพ และความก้าวหน้าของประเทศสมาชิกอาเซียน
สีที่ใช้ในตราสัญลักษณ์อาเซียน
ซึ่งนอกจากตราสัญลักษณ์ที่จะช่วยสร้างความเข้าใจในความเป็นอาเซียนแล้ว สีที่ใช้ก็ยังมีส่วนที่ช่วยเสริมให้อาเซียนมีพลัง สามารถดำเนินไปได้ด้วยความอดทน และมีความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน



➤สีเหลือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง
➤สีแดง หมายถึง ความกล้าหาญและการมีพลวัติ
➤สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์
➤สีน้ำเงิน หมายถึง สันติภาพและความมั่นคง
10 ประเทศอาเซียน
1.ประเทศบรูไน (BRUNEI)



เมืองหลวง บรูไน : บันดาร์เซอรีเบอกาวัน (Bandar Seri Begawan)
ศาสนา : อิสลาม 67%, พุทธนิกายมหายาน 13%, ศาสนาคริสต์ 10%
วันชาติ บรูไน : วันที่ 23 กุมภาพันธ์
การเมืองการปกครอง บรูไน : ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ สุลต่านทรงเป็นอธิปัตย์ คือเป็นทั้งประมุข นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นชาวบรูไนเชื้อสายมาเลย์โดยกำเนิด และจะต้องเป็นมุสลิมนิกายสุหนี่ นอกจากนี้ บรูไนไม่มีสภาที่ได้รับเลือกจากประชาชน
ภาษา : ภาษามาเลย์เป็น ภาษาราชการ และใช้ภาษาอังกฤษกันทั่วไปทั้งในราชการ การค้า ภาษาจีนใช้กันในกลุ่มคนจีน
อาหารประจำชาติ บรูไน : อัมบูยัต เป็นอาหารยอดนิยมของบรูไน
สัตว์ประจำชาติ บรูไน : เสือโคร่ง
สกุลเงิน บรูไน : ดอลล่าร์บรูไน ดารุสซาลาม
วันที่เข้าร่วมอาเซียน :  7 มกราคม 1984
ดอกไม้ประจำชาติ :  ดอกซิมปอร์ (Simpor)
➤2.ประเทศกัมพูชา (CAMBODIA)

เมืองหลวง กัมพูชา : กรุงพนมเปญ
ศาสนา : พุทธร้อยละ 95, อิสลามร้อยละ 3, คริสต์ร้อยละ 1.7, พราหมณ์-ฮินดูร้อยละ 0.3
วันชาติ กัมพูชา : วันที่ 9 พฤศจิกายน

การเมืองการปกครอง กัมพูชา : ประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ
พื้นที่ :  180,000 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรอินโดจีน
ประชากร : : มีจำนวนประมาณ 14.7 ล้านคน ชาวเขมรร้อยละ 90 ชาวญวนร้อยละ 5 ชาวจีนร้อยละ 1 และอื่นๆ ร้อยละ 4
ภาษา : ภาษาเขมร เป็นภาษาราชการ รองลงมาเป็นอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เวียดนามและจีน
อาหารประจำชาติ กัมพูชา : อาม็อก (Amok) อาหารยอดนิยมของกัมพูชา มีลักษณะคล้ายห่อหมกของไทย
สัตว์ประจำชาติ กัมพูชา : กูปรี หรือโคไพร เป็นสัตว์ประจำชาติของประเทศกัมพูชา
สกุลเงิน กัมพูชา : เรียล (Riel) เป็นสกุลเงินของประเทศกัมพูชา
วันที่เข้าร่วมอาเซียน :  เข้าเป็นสมาชิกอาเซียนเมื่อวันที่ 30 เมษายน 1999
ดอกไม้ประจำชาติ :   ดอกลำดวน (Rumdul)
➤3.ประเทศอินโดนีเซีย (INDONESIA)

เมืองหลวง อินโดนีเซีย : จาการ์ตา (Jakarta) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ศาสนา : อิสลามร้อยละ 88 คริสต์ร้อยละ 8 ฮินดูร้อยละ 2 พุทธร้อยละ 1 และศาสนาอื่นๆร้อยละ 1
วันชาติ อินโดนีเซีย : วันที่ 17 สิงหาคม
การเมืองการปกครอง : ประชาธิปไตยที่มีประธานาธิปดีเป็นประมุข และหัวหน้าฝ่ายบริหาร
พื้นที่ :  1,904,433 ตารางกิโลเมตร (หรือ 10 เท่า ของไทย)
ประชากร : มีจำนวนประชากร 241 ล้านคน ประกอบด้วย ชนพื้นเมืองหลายกลุ่ม
ภาษา : ภาษาอินโดนีเซีย เป็นภาษาราชการ
อาหารประจำชาติ อินโดนีเซีย : กาโด กาโด (Gado Gado) ประกอบไปด้วยผักและธัญพืช
สัตว์ประจำชาติ อินโดนีเซีย : มังกรโคโมโด
สกุลเงิน อินโดนีเซีย : รูเปียห์ (Rupiah)
วันที่เข้าร่วมอาเซียน :  8 สิงหาคม 1967 เป็น 1 ใน 5 ประเทศในการก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดอกไม้ประจำชาติ : ดอกกล้วยไม้ราตรี (Moon Orchid)
➤4.ประเทศลาว (LAOS)


เมืองหลวง ลาว : เวียงจันทร์
ศาสนา : ศาสนาพุทธ(เถรวาท) คริสต์ อิสลาม นับถือผี
วันชาติ ลาว : วันที่ 2 ธันวาคม
การเมืองการปกครอง ลาว : สาธารณรัฐสังคมนิยม พรรคการเมืองเดียว คือ พรรคปฏิวัติประชาชนลาว
พื้นที่ : ประมาณ 236,000 ตารางกิโลเมตร
ประชากร : มีจำนวนประมาณ 6.5 ล้านคน ประกอบด้วย ชาวลาวลุ่ม 68%, ลาวเทิง 22%, ลาวสูง 9% รวมประมาณ 68 ชนเผ่า
ภาษา : ภาษาลาว เป็นภาษาราชการ
อาหารประจำชาติ ลาว : ซุบไก่ (Chicken Soup)
สัตว์ประจำชาติ ลาว : ช้าง ถือเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองที่มีความผูกพันกับชาวลาวเป็นอย่างยิ่ง 
สกุลเงิน ลาว : กีบ (Kip)
วันที่เข้าร่วมอาเซียน :  เข้าร่วมสมาชิกอาเซียนเป็นประเทศที่ 8 วันที่ 23 ก.ค. 1997
ดอกไม้ประจำชาติ : ดอกจำปาลาว (Dok Champa)
➤5. ประเทศมาเลเซีย (MALAYSIA)


เมืองหลวง มาเลเซีย : กัวลาลัมเปอร์
ศาสนา : อิสลาม ศาสนาประจำชาติ ร้อยละ 60.4, พุทธ ร้อยละ 19.2, คริสต์ ร้อยละ 11.6, ฮินดู ร้อยละ 6.3 และอื่น ๆ อีกร้อยละ 2.5
วันชาติ มาเลเซีย : วันที่ 31 สิงหาคม
การเมืองการปกครอง มาเลเซีย : ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา
พื้นที่ :  ประมาณ 329,758 ตารางกิโลเมตร ( ประมาณ 64% ของไทย)
ประชากร : มีจำนวนประมาณ 30,018,242 ประกอบด้วย มาเลย์ 40%, จีน33%, อินเดีย 10%, ชนพื้นเมืองเกาะบอร์เนียว 10% 
ภาษา : ภาษามาเลย์ หรือ ภาษามลายู เป็นภาษาราชการ รองลงมาเป็นอังกฤษและจีน
อาหารประจำชาติ มาเลเซีย : นาซิเลอมัก เป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมของมาเลเซีย  เป็นข้าวผัดกับกะทิและสมุนไพร, สะเต๊ะ เป็นอาหารที่รู้จักแพร่หลาย  นิยมใช้เนื้อวัว หรือเนื้อไก่ย่างบนเตาถ่าน  รับประทานกับน้ำจิ้มรสชาติหวานหอมเผ็ด และเครื่องเคียง
สัตว์ประจำชาติ มาเลเซีย : เสือโคร่ง
สกุลเงิน มาเลเซีย : ริงกิต (Ringgit)
วันที่เข้าร่วมอาเซียน :  8 สิงหาคม 1967 เป็น 1 ใน 5 ประเทศในการก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดอกไม้ประจำชาติ : ดอกพู่ระหง (Bunga Raya)
➤6.ประเทศเมียนมาร์ หรือพม่า (MYANMAR)


เมืองหลวง เมียนมาร์ : เนปีดอ (Naypyidaw)
ศาสนา : พุทธ 90%, คริสต์ 5%, อิสลาม 3.8%
วันชาติ : วันที่ 4 มกราคม
การเมืองการปกครอง เมียนมาร์ : ระบบเผด็จการทหาร ปกครองโดยรัฐบาลทหารภายใต้สภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ
พื้นที่ :  677,000 ตารางกิโลเมตร
ประชากร : มีจำนวนประมาณ 56,400,000 คน มีชาติพันธุ์พม่า 68%, ไทใหญ่ 9%, กะเหรี่ยง 7%, ยะไข่ 3.50%, จีน 2.50%, มอญ 2%, คะฉิ่น 1.50%, อินเดีย 1.25%, ชิน1%, คะยา 0.75% และอื่นๆ 4.50%
ภาษา : ภาษาพม่า เป็นภาษาราชการ
อาหารประจำชาติ เมียนมาร์ : หล่าเพ็ด (Lahpet) เป็นอาหารยอดนิยมของพม่า คือใบชาหมักทานกับเครื่องเคียง
สัตว์ประจำชาติ เมียนมาร์ : เสือ
สกุลเงิน เมียนมาร์ : จ๊าด (Kyat)
วันที่เข้าร่วมอาเซียน :  วันที่ 23 กรกฎาคม ค.ศ.1997
ดอกไม้ประจำชาติ :  ดอกประดู่ (Paduak)
➤7.ประเทศฟิลิปปินส์ (PHILIPPINES)


เมืองหลวง ฟิลิปปินส์ : กรุงมะนิลา
ศาสนา : ร้อยละ 92.5 นับถือศาสนาคริสต์ โดยร้อยละ 83 นับถือนิกายโรมันคาทอลิก และร้อยละ 9 เป็นนิกายโปรเตสแตนต์
วันชาติ ฟิลิปปินส์ : วันที่ 12 มิถุนายน
การเมืองการปกครอง ฟิลิปปินส์ : ระบอบประชาธิปไตย แบบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน
พื้นที่ :  300,000 ตารางกิโลเมตร
ประชากร : มีจำนวนประมาณ 103,000,000 คน
ภาษา : ภาษาฟิลิปีโน และภาษาอังกฤษ เป็นภาษาราชการ
อาหารประจำชาติ ฟิลิปปินส์ : อโดโบ้ (Adobo) เป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยม ของประเทศฟิลิปปินส์ ทำจากหมู หรือไก่ที่ผ่านกรรมวิธีหมักและปรุงรสโดยจะใส่ซีอิ๊วขาว น้ำส้มสายชู กระเทียมสับ ใบกระวาน พริกไทยดำ นำไปทำให้สุกโดยใส่ในเตาอบ หรือทอด และรับประทานกับข้าว
สัตว์ประจำชาติ ฟิลิปปินส์ : กระบือ เป็นสัตว์ประจำชาติฟิลิปปินส์ ในภาษาตากาล็อกเรียกว่า คาราบาว
สกุลเงิน ฟิลิปปินส์ : เปโซ (Peso)
วันที่เข้าร่วมอาเซียน : วันที่ 8 สิงหาคม
ดอกไม้ประจำชาติ : ดอกพุดแก้ว (Sampaguita Jasmine)
➤8.ประเทศสิงคโปร์ (SINGAPORE)

เมืองหลวง สิงคโปร์ : สิงคโปร์ สิงคโปร์เป็นประเทศเดียวที่ไม่มีเมืองหลวง เนื่องจากเป็นเกาะขนาด 710 ตารางกิโลเมตร จึงบริหารประเทศทั้งหมดเป็นรัฐเดียว
ศาสนา : พุทธ 42.5%, อิสลาม 14.9%, คริสต์ 14.5%, ฮินดู 4%, ไม่นับถือศาสนา 25%
วันชาติ : วันที่ 9 สิงหาคม
การเมืองการปกครอง สิงคโปร์ : ปกครองแบบสาธารณรัฐ มีรัฐสภา มีประธานาธิบดีเป็นประมุข และมีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล รัฐสภาวาระคราวละ 5
พื้นที่ :  697.1 ตารางกิโลเมตร
ประชากร : มีจำนวนประมาณ 5,469,700 คน ประกอบด้วยชาวจีน 75%, มาเลย์ 15%, อินเดีย 10%
ภาษา : ภาษาราชการ มี 4 ภาษาด้วยกัน คือ ภาษาอังกฤษ ภาษามลายู ภาษาจีนแมนดาริน และภาษาทมิฬ
อาหารประจำชาติ สิงคโปร์ : ลักซา (Laksa) อาหารยอดนิยมของสิงคโปร์ เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (ใส่กะทิ) ลักษณะคล้ายข้าวซอยของไทย น้ำแกงเข้มข้นด้วยรสชาติของกะทิ กุ้งแห้ง และพริก โรยหน้าด้วยกุ้งต้ม หอยแครง
สัตว์ประจำชาติ สิงคโปร์ : สิงโต ซึ่งเป็นที่มาของชื่อประเทศ มาจากคำว่า สิงหปุระ (Singapura) เป็นภาษาสันสกฤต
สกุลเงิน สิงคโปร์ : ดอลล่าร์สิงคโปร์
วันที่เข้าร่วมอาเซียน : 8 สิงหาคม 1967 เป็น 1 ใน 5 ประเทศในการก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดอกไม้ประจำชาติ : ดอกกล้วยไม้แวนด้า (Vanda Miss Joaquim)
➤9. ประเทศเวียดนาม (VIETNAM)


เมืองหลวง เวียดนาม : กรุงฮานอย
ศาสนา : ศาสนาพุทธ นิกายมหายานสูงถึงร้อยละ 70 ของจำนวนประชากร ร้อยละ 15 นับถือศาสนาคริสต์ ที่เหลือนับถือลัทธิขงจื้อ มุสลิม
วันชาติ : วันที่ 2 กันยายน
การเมืองการปกครอง เวียดนาม : ระบอบสังคมนิยม โดยพรรคคอมมิวนิสต์เป็นพรรคการเมืองเดียว
พื้นที่ :  331,689 ตารางกิโลเมตร
ประชากร : 89,693,000 คน
ภาษา : ภาษาเวียดนาม เป็นภาษาราชการ
อาหารประจำชาติ เวียดนาม : : แหนม หรือ ปอเปี๊ยะเวียดนาม เป็นอาหารยอดนิยมของเวียดนาม หนึ่งในอาหารพื้นเมืองที่โด่งดังที่สุด
ของประเทศแผ่นแป้งทำจากข้าวจ้าว นำมาห่อไส้ ซึ่งอาจเป็นไก่ หมู กุ้ง หรือหมูยอ รวมกับผักที่มีสรรพคุณ
เป็นยานานาชนิด
สัตว์ประจำชาติ เวียดนาม : กระบือ
สกุลเงิน เวียดนาม : ด่ง (Dong)
วันที่เข้าร่วมอาเซียน : วันที่ 28 มกราคม 1995
ดอกไม้ประจำชาติ : ดอกบัว (Lotus)
➤10. ประเทศไทย (THAILAND)

เมืองหลวง ไทย: กรุงเทพมหานคร
ศาสนา : พุทธ 93.83%, อิสลาม 4.56%, คริสต์ 0.80%, ฮินดู 0.086%, ลัทธิขงจื๊อ 0.011% และอื่นๆ 0.079% และมีประชากรที่ไม่นับถือศาสนาและไม่ทราบศาสนา 0.27% และ 0.36%
วันชาติ : วันที่ 5 ธันวาคม
การเมืองการปกครอง ไทย: ระบบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
พื้นที่ : 513,115.02 ตารางกิโลเมตร
ประชากร : 65,124,716 คน
ภาษา : ภาษาไทย เป็นภาษาราชการ
อาหารประจำชาติ ไทย:  ต้มยำกุ้ง (Tom Yam Goong), ส้มตำ
สัตว์ประจำชาติ ไทย: ช้าง ถือเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองและมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับสถาบันหลักของประเทศ
สกุลเงิน ไทย : บาท (Baht)
วันที่เข้าร่วมอาเซียน : 8 สิงหาคม 1967 เป็น 1 ใน 5 ประเทศในการก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดอกไม้ประจำชาติ : ดอกราชพฤกษ์ (Ratchaphruek)
แหล่งที่มา
https://sites.google.com/site/woraluk2543/phaph-kickrrm
https://guru.sanook.com/8631/

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2561

กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม

1.ขั้นระบุปัญหา

➤เป็นการทำความเข้าใจปัญหาหรือความท้าทาย วิเคราะห์เงื่อนไขหรือข้อจำกัดของสถานการณ์ปัญหา เพื่อกำหนดขอบเขตของปัญหา ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างชิ้นงานหรือวิธีการในการแก้ปัญหา
➧➧แอร์เสีย


2.ขั้นรวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา 
➤เป็นการรวบรวมข้อมูลและแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับแนวทางการแก้ปัญหาและประเมินความเป็นไปได้ ข้อดีและข้อจำกัด
➧➧ 1.น้ำยาแอร์รั่ว
        2.คอมเพรสเซอร์หยุดทำงาน
        3.แอร์ไม่เย็นเพราะไม่ล้างแอร์
3.ขั้นออกแบบวิธีการแก้ปัญหา 
➤เป็นการประยุกต์ใช้ข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องเพื่อการออกแบบชิ้นงานหรือวิธีการในการแก้ปัญหา โดยคำนึงถึงทรัพยากร ข้อจำกัดและเงื่อนไขตามสถานการณ์ที่กำหนด
➧➧1.มอเตอร์พัดลมแอร์และคอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน
- ให้ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้า และตรวจสอบระบบสายไฟที่จ่ายเข้าเครื่องปรับอากาศ โดยถ้าแรงดันไฟฟ้าต่ำไป ให้ทำการแจ้งการไฟฟ้าแห่งประเทศไทยโดยด่วน
       2.ระบบแอร์ทำงานแต่มีเสียงดัง
- ให้ทำการตรวจสอบการติดตั้ง ความแน่นหนาในการติดตั้งแอร์
4.ขั้นวางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา 
➤เป็นการกำหนดลำดับขั้นตอนของการสร้างชิ้นงานหรือวิธีการ แล้วลงมือสร้างชิ้นงานหรือพัฒนาวิธีการเพื่อใช้ในการแก้ปัญหา
➧➧ 1.ปรับตำแหน่งเพื่อติดตั้งใหม่
        2.หากมีการรั่วซึมของน้ำควรเปลี่ยนหรือซ่อมแซมทันที
        3.จัดวางตำแหน่งใหม่โดยให้เครื่องระบายความร้อนแต่ละตัวห่างกันพอสมควร

5.ขั้นทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน 
➤เป็นการทดสอบและประเมินการใช้งานของชิ้นงานหรือวิธีการ โดยผลที่ได้อาจนำมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมที่สุด
➧➧ซ่อมเสร็จตรวจสอบการทำงานของเครื่องปรับอากาศ

6.ขั้นเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน
➤เป็นการนำเสนอแนวคิดและขั้นตอนการแก้ปัญหาของการสร้างชิ้นงานหรือการพัฒนาวิธีการ ให้ผู้อื่นเข้าใจและได้ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาต่อไป
➧➧  ผลการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน เป็นขั้นตอนของการสื่อสาร ถึงผลที่เกิดขึ้นกับการพัฒนาชิ้นงานหรือวิธีการเพื่อ แก้ปัญหาไปยังผู้รับฟัง เพื่อสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจ โดยขั้นตอนนี้จำเป็นต้องมีการเลือกวิธีการนำเสนอข้อมูลที่เข้าใจง่ายและน่าสนใจ




วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ประวัติรัชกาลที่10

⧫ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร 
 (Maha Vajiralongkorn Bodindradebayavarangkun)

     ⧫พระนามรัชกาลที่10
➤สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร  (พระราชสมภพ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495) เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จขึ้นทรงราชย์เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 จนถึงปัจจุบัน เป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
    ⧫ประวัติรัชกาลที่ 10
➤สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นพระราชโอรสพระองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชสมภพ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495 เวลา 17:45 น. มีพระเชษฐภคินี คือ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และพระขนิษฐภคินีสองพระองค์คือ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีขณะพระชนมายุได้หนึ่งพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระราชทานพระนาม ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงเป็นผู้ตั้งพระนามถวายตามดวงพระชะตา ว่า
       สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ        เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ
       บรมจักรยาดิศรสันตติวงศ   เทเวศรธำรงสุบริบาล
  อภิคุณูปการมหิตลาดุลเดช          ภูมิพลนเรศวรางกูร
 กิตติสิริสมบูรณสวางควัฒน์        บรมขัตติยราชกุมาร
พระนาม "วชิราลงกรณ" นั้น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงตั้งถวาย มาจาก "วชิรญาณะ" พระนามฉายาทั้งในพระองค์เองและในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะผนวช ผนวกกับ "อลงกรณ์" จากพระนามเดิมในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีความหมายว่า "ทรงเครื่องเพชรนิลจินดา" หรืออาจแปลว่า "อสุนีบาต"
      ⧫พระราชกรณียกิจ
ด้านการบิน
➽เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ทรงปฏิบัติหน้าที่ครูการบินเครื่องบินขับไล่แบบเอฟ-5 อี/เอฟ และพ.ศ. 2552 ทรงปฏิบัติหน้าที่นักบินที่ 1 เครื่องบินโบอิ้ง 737 – 400 ในเที่ยวบินสายใยรักแห่งครอบครัว ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และจัดหาอุปกรณ์ด้านการแพทย์ สำหรับโรงพยาบาลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (เที่ยวบินที่ ทีจี 8870 กรุงเทพมหานครถึงจังหวัดเชียงใหม่ และเที่ยวบินที่ ทีจี 8871 จังหวัดเชียงใหม่ถึงกรุงเทพมหานคร)

➤ ด้านการต่างประเทศ

➽วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โปรดให้ พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต นำผ้าห่มกันหนาว 20,000 ผืน ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีนายกษิต ภิรมย์ เป็นผู้รับมอบ
➤ ด้านการศึกษา
➽พระองค์พระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้อาคารของกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เป็นที่ตั้งของโรงเรียนอนุบาลชื่อว่า โรงเรียนอนุบาลทหารมหาดเล็กราชวัลลภ โดยในระยะแรกได้จัดการเรียนการสอนเฉพาะชั้นอนุบาล ต่อมาโรงเรียนได้ย้ายไปที่จังหวัดนนทบุรี และได้รับพระราชทานชื่อใหม่ว่า “โรงเรียนอนุราชประสิทธิ์นอกจากนี้ ยังพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สมทบเป็นค่าก่อสร้างโรงเรียนมัธยมศึกษาที่ตั้งอยู่ในชนบทห่างไกลคมนาคมไม่สะดวก กระทรวงศึกษาธิการได้สนองพระราชประสงค์ด้วยการน้อมเกล้าฯ ถวายโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาจำนวน 6 โรงเรียน เป็นโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ ได้แก่
➽โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา อ.ปลาปาก จ.นครพนม (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 1)
➽โรงเรียนมัธยมจุฑาวัชร อ.ลานกระลือ จ.กำแพงเพชร(ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 2)
➽โรงเรียนมัธยมวัชเรศร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3)
➽โรงเรียนมัธยมจักรีวัชร อ.รัตนภูมิ จ.สงขลา(ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 2)
➽โรงเรียนมัธยมวัชรวีร์ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา(ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 3)
➽โรงเรียนมัธยมบุษย์น้ำเพชร อ.เมือง จ.อุดรธานี (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 1)
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยาวชนในตำบลต่างๆ ทรงสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์เยาวชนตำบล รวมทั้งได้ทรงเป็นประธานงานวันเยาวชนแห่งชาติ วันที่ 20 กันยายน ของทุกปี และทรงเป็นประธานในพิธีปฏิญาณตนและสวนสนามของลูกเสือและเนตรนารี และสมาชิกผู้ทำประโยชน์
➤วิดีโอเพลงสดุดีจอมราชา


➤หน้าที่ของนักเรียนต่อชาติบ้านเมือง ศาสนา พระมหากษัตรย์
1.จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.ไม่ดูชาติ
3.ปฎิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีต่อชาติ
⧫https://th.wikipedia.org/wiki/
⧫https://lifestyle.campus-star.com/knowledge/43066.html

python 1.ประวัติ           Python คือชื่อภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาหนึ่ง ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาโดยไม่ยึดติดกับแพลตฟอร์ม กล่าวคือสา...